บทความท่องเที่ยว

ตามรอยเส้นทางสายไหม (Silk Road)

 
เส้นทางสายไหม (Silk Road หรือ Silk Route) เป็นชุดเส้นทางการส่งการค้าและวัฒนธรรมซึ่งเป็นศูนย์กลางของอันตรกิริยาทางวัฒนธรรมผ่านภูมิภาคของทวีปเอเชียที่เชื่อมตะวันตกและตะวันออกโดยการโยงพ่อค้าวาณิช ผู้แสวงบุญ นักบวช ทหาร ชนเร่ร่อนและผู้อาศัยในเมืองจากจีนและอินเดียไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระหว่างเวลาหลายสมัย


แผนที่เส้นทางสายไหม 
Cr.http://www.silkroutes.net/Images2/MapSilkRoadRoutesTurkeyChina.JPG

เส้นทางการค้าของจีนเมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน เป็นเส้นทางที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เนื่องจากเป็นสะพานเชื่อมจีนกับประเทศต่าง ๆ ในยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ได้สร้างคุณูปการอันสำคัญเพื่อการไปมาหาสู่กันทางวัตถุและการแลกเปลี่ยนกันทางอารยธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก เส้นทางสายไหมเป็นเส้นทางการไปมาหาสู่กันทางการค้าทางบกในสมัยโบราณของจีนที่ผ่านเอเชียกลางไปสู่เอเซียใต้ เอเซียตะวันตก ตลอดจนยุโรปและแอฟริกาเหนือ เนื่องจากเคยมีใยไหมและผ้าไหมของจีนจำนวนมากผ่านเส้นทางสายนี้ไปสู่ตะวันตก ฉะนั้น จึงได้รับสมญานามว่าเป็น “เส้นทางสายไหม” เส้นทางสายไหมมีความยาว 6,437 กิโลเมตร (4,000 ไมล์)

คณะของเราบินสู่เมืองเฉิงตู (Chengdu) และต่อไฟล์ทภายในไปยังเมืองหลันโจว (Lanzhou) เมืองเอกของมณฑลกานซู่ ทางภาคตะวันเฉียงเหนือของจีน เดินทางเข้าสู่ เมืองจางเย่ (Zhangye) โดยรถไฟความเร็วสูง จางเย่เป็นเมืองที่มีความสำคัญอย่างมากในเส้นทางสายไหมทั้งในเรื่องของประวัติศาสตร์ความเป็นมาในเรื่องที่เป็นเมืองแห่งพุทธศาสนา

"เส้นทางนี้ยังค่อนข้างลำบากสำหรับการเดินทางไปเอง แม้แต่คนจีนเองก็ยังไม่ค่อยมีใครขับรถส่วนตัวเที่ยว ส่วนใหญ่ก็จะใช้บริการทัวร์จะสะดวกกว่า"

เดินทางสู่ วัดต้าฝอซื่อ (Dafo Temple) ภายในวิหารใหญ่เป็นที่ประดิษฐานของพระนอนศักดิ์สิทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดของจีน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์เซี่ย และได้รับการบูรณะต่อเติมเรื่อยมาทั้งสมัยราชวงศ์หยวน จนถึงสมัยราชวงศ์หมิง รวมเป็นระยะเวลากว่า 900 ปี วิหารนี้ถือเป็นวิหารสร้างจากไม้ที่มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์อยู่ภายในที่ ใหญ่ที่สุด ในเอเชีย เพื่อการอนุรักษ์ทางวัดห้ามถ่ายภาพด้านในของวิหาร 


Cr.wikipedia

เดินทางต่อสู่ เขาสลับลายรุ้ง (Rainbow Mountains) อุทยานธรณีหินแดง ที่ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้านหนานไท่จื่อ เมืองจางเย่ เป็นประติมกรรมจากธรรมชาติ ซึ่งก่อตัวผ่านการปรับแต่งจากลมฝนและกาลเวลากว่า 24 ล้านปี ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติที่มหัศจรรย์ และยังคงความบริสุทธิ์ของธรรมชาติดั้งเดิม ไม่มีการรุกรานของอารยธรรมมนุษย์ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนจำนวนมากนิยมไปเที่ยวชมขณะที่จีนยังมีทิวเขาลักษณะเดียวกับตันเซี๋ยในบริเวณนี้อีก 5 แห่ง และทั้งหมดล้วนได้รับการปกป้องอยู่ในบัญชีมรดกโลก เมื่อปี 2010 

เดินทางกันต่อสู่ เมืองเจียยวี่กวาน เป็นที่ตั้งของกำแพงเมืองจีนด่านสุดท้ายทางด้านตะวันตก ด่านเจียยวี่กวาน (Jiayuguan's Great Wall Fort) ที่สูงตระหง่านเป็นปราการที่แข็งแรงและสำคัญที่สุดในภาคตะวันตก ป้อมปราการที่ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1372 แล้วเสร็จภายหลังสถาปนาราชวงศ์หมิง ลานจัตุรัสของป้อมปราการด้านในที่มีกำแพงรายล้อม ส่วนบนของกำแพงสูง 10 เมตร และยาว 640 เมตร เป็นที่ตั้งของหอระวังภัยซึ่งสร้างขึ้นในปลายราชวงศ์ หมิงถึงต้นราชวงศ์ชิง ด้านหนึ่งทอดไปทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ สู่เทือกเขาฉีเหลียนซานและอีกด้านหนึ่งทอดไปทางทิศเหนือสู่เทือกเขาเป่ยซาน ถือว่าเป็นกำแพงเมืองที่มีป้อมปราการที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก 

เดินทางเข้าสู่ เมืองตุนหวง (Dunhuang) เป็นเมืองโอเอซิสกลางทะเลทรายโกบี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกานซู่  

จะพบกับ เนินทรายหมิงซาซาน (MingShaShan) เทือกเขาทะเลทรายที่มีความยาวกว่า 40 ก.ม. สูงประมาณ 250 ม. ทรายมีสีสันต่างกัน 5 สี คือ สีแดง เหลือง เขียว ขาว ดำ เมื่อเราเดินขึ้นถึงยอดเนินเขาทราย สามารถไถลลื่นลงมาสู่เชิงเขาด้านล่างอย่างสนุกสนาน 

คณะเราขี่อูฐท่องทะเลทราย จูงตามกันเป็นแถวไปตามสันทรายที่โค้งไปมา จะเห็นวิวทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา ในตรงนี้แดดค่อนข้างแรงและมีลม จึงแนะนำให้เตรียมแว่นตากันแดด และผ้าคลุม เพื่อป้องกันแดดและฝุ่นทราย

ไฮไลท์ของที่นี่คือ ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว (Crescent Lake) เย่ว์หยาเฉวียน ตั้งอยู่ที่ เมืองตุนหวง มณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกของจีน มีลักษณะเป็นทะเลสาบรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ถูกล้อมรอบด้วยเนินทราย บ่อน้ำผุดที่ไม่เคยเหือดแห้งแม้จะอยู่กลางทะเลทราย ทั้งที่มีความลึกเฉลี่ยเพียง 6 เมตรเท่านั้น 


Cr.Kentliujian

ถ้ำโม่เกา (The Mogao Caves) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองตุนหวง มณฑลกานซู ในอดีตเป็นหนึ่งในจุดค้าขายและแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่สำคัญของเส้นทางสายไหม ภายในถ้ำงดงามด้วยพุทธศิลป์จีนทั้งพระพุทธรูป  และจิตรกรรมฝาผนังที่มีอายุกว่า 1,000 ปี

เดินทางกันต่อสู่ เมืองทูรูฟาน (Turphan) เมืองโอเอซีสบนเส้นทางสายไหมระหว่างทางผ่านชมโรงผลิตไฟฟ้าจากแรงลม ประเทศจีนมีโรงผลิตไฟฟ้าจากแรงลม 24 แห่ง ที่ใหญ่ที่สุดในจีน และในเอเซียในปัจจุบัน อยู่ที่ต้าปั่นเฉิง ซึ่งแรง ลมที่แรงที่สุดที่นี่คือ 40 ม./ วินาที เมื่อไปถึงจะเห็นกังหันลมนับพันตัว ตั้งเรียงรายเป็นระเบียบอยู่บนพื้นทะเลทราย

เมืองโบราณเกาชางกู่เฉิง (Gaochang Ancient City) ภาษาอุยกูร์เรียก DUHU CITY มีความหมายว่า เมืองกษัตริย์ สร้างโดยหน่วยทหารที่ถูกส่งมาพัฒนาพื้นที่ในยุคอาณาจักร CHESHI ซึ่งขณะนั้นตรงกับสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ประมาณ 100 ปีก่อนคริสตกาล) ที่นี่ถูกเรียกว่ากำแพงเกาชางหรือด่านเกาชางในปลายราชวงศ์ฮั่นถึงราชวงศ์เว่ยและราชวงศ์จิ้น ท่านจะได้เห็นซากเมืองเก่า กำแพงเมืองเก่า ที่ยังคงเหลือร่องรอยอารยะธรรมที่เคยรุ่งเรืองมาก่อน 

 

ฝอเยี่ยนซาน หรือ ภูเขาเปลวเพลิง (Flaming Mountain) ซึ่งเป็นสถานที่ที่กล่าวถึงในนวนิยายเรื่องไซอิ๋ว ตอนที่ซุนหงอคงไปยืมพัดกายสิทธิ์จากองค์หญิงพัดเหล็กมาดับไฟในภูเขาเปลวไฟ เพื่อให้พระถังซำจั๋งได้เดินทางไปเชิญพระไตรปิฎกที่อินเดียต่อ ภูเขาเปลวไฟมีความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร ความสูงเฉลี่ย 500 เมตร ลักษณะเป็นเขาหินสีอิฐแดงทั้งลูก ไม่มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นเลย มองแต่ไกลจะเห็นเป็นสีเพลิงคล้ายไฟกำลังลุกไหม้

เข้าสู่ เมืองอูรูมูฉี (Urumqi) เขตปกครองตนเองซินเจียง 

ชมความสวยงามของ เทือกเขาเทียนซาน (Tianshan) ซึ่งมีความสูง 5,445 เมตรจากระดับน้ำทะเล ชมความงามธรรมชาติของป่าสนภูเขาหิมะสูงชัน ล่องเรือทะเลสาบเทียนฉือ (Tian chi lake) ทะเลสาบสรวงสวรรค์ ทะเลสาบเทียนฉือ ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาเทียนซาน ตัวทะเลสาบตั้งอยู่ใจกลางเทือกเขา เป็นทะเลสาบที่เกิดขึ้นจากการสลายตัวของหิมะบนภูเขาเทียนซาน ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่บนความสูง 1,900 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีความยาว 3,400 เมตร ความกว้าง 1,500 เมตร ช่วงที่ลึกที่สุด 105 เมตร มีเนื้อที่รวมประมาณ 4.9 ตารางกิโลเมตร ในฤดูหนาวเมื่อผืนน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง คนในเมืองจะขึ้นมาเล่นสกีกันมากมาย ปลายเดือนเมษายนน้ำแข็งถึงจะละลายกลายเป็นผืนน้ำสีเขียวมรกต สะท้อนเงาเทือกเขาป๋อเก๋อต๋าฟงและป่าสนที่รายรอบ

ปิดท้ายแวะช้อปปิ้งของฝากกันที่ ตลาดพื้นเมืองเอ้อเต้าเฉียว ตลาดต้าปาจา (Dapaja Market) เป็นตลาดพื้นเมืองที่เป็นสัญลักษณ์อูรูมูฉี
จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง
เช่น อัลมอนด์, วอลนัท, กีวีอบแห้ง, ลูกเกด ฯลฯ แล้วยังมีสินค้าประเภทเครื่องดนตรีพื้นเมือง รวมถึงเครื่องทองเหลือง เช่น แจกัน, กาน้ำชา

>>ขอขอบคุณ รูปภาพสวยๆ จากคุณวัลลภ คณะเดินทางตามรอยเส้นทางสายไหมค่ะ 

สนใจเดินทาง กรุ๊ปส่วนตัว ตามรอยเส้นทางสายไหม ติดต่อ ได้ที่ บริษัท ทาบีทาบิ ทราเวล จำกัด ค่ะ

----------------------------------------------------------------

บริษัท ทาบีทาบิ ทราเวล จำกัด
รับจัด กรุ๊ปเหมาส่วนตัว ทั้งในและต่างประเทศ
- กรุ๊ปดูงาน ประชุม สัมมนา
- กรุ๊ปส่วนตัว ครอบครัว เพื่อนฝูง ตั้งแต่ 5 ท่าน ขึ้นไป 
- กรุ๊ปส่งเสริมการขาย

☎️ติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
โทรศัพท์ 02-871-5588 
Hotline 095-963-5588, 086-324-4691 
FB : https://www.facebook.com/tabeetabitravel/
IG : https://www.instagram.com/tabeetabi_travel/
Line@ : @tabeetabi