วีซ่าท่องเที่ยว

สวิตเซอร์แลนด์ "ดินแดนในฝัน"

Switzerland | สวิตเซอร์แลนด์ 

 

    เมื่อกล่าวถึงประเทศในฝันที่หลายคนอยากเดินทางไปสัมผัสสักครั้งหนึ่ง "สวิตเซอร์แลนด์"
เป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้น ๆ 
ที่อยู่ในใจของใครหลายคน ด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ผู้คนมีไมตรี 
ที่ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมาเยือนสวิตเซอร์แลนด์


    สวิตเซอร์แลนด์ได้ชื่อว่า เป็นดินแดนแห่งนาฬิกา ชีส ช็อกโกแลต มีธรรมชาติของทุ่งหญ้า ขุนเขา หิมะ
ธารน้ำแข็ง ทะเลสาบและเขตเมืองเก่าที่สวยงาม ระบบการคมนาคมสะดวกสบาย มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งรถไฟ
รสบัส รถเมล์ รถราง และเรือล่องทะเลสาบ จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย 

   ทาบี ทาบิ นำท่านไปสัมผัสกับธรรมชาติ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝันอันแสนสวยงาม
เริ่มต้นจากสนามบินซูริค เดินทางไปยังเบิร์น เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์


เบิร์น (Bern)

   เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ มีสัญลักษณ์เป็นหมี "เบิร์น" มาจากคำว่า "แบร์" ในภาษาดัตช์ ซึ่งแปลว่า หมี
ดยุคแบร์ชโทลด์ นำมาตั้งเป็นชื่อเมืองจากการที่ทรงดำริว่า จะตั้งชื่อเมืองตามสัตว์ที่พบและฆ่าได้สำเร็จเป็นตัวแรก
"หมี" จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมาจนถึงปัจจุบัน


Bern


มหาวิหารมึนสเตอร์ (Munster) โบสถ์โกธิคสไตล์เยอรมัน 
เริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1421 แต่มาแล้วเสร็จในอีก 470 ปีต่อมา


Bern Munster



คำพิพากษาครั้งสุดท้าย (The Last Judgment)


เหนือประตูทางเข้าหลักของมหาวิหารคือจุดเด่นของชิ้นงานที่แสดงภาพ การพิพากษาครั้งสุดท้าย (The Last Judgment) 
งานชิ้นนี้แสดงความเชื่อของชาวคริสต์ที่ว่า พระเจ้าจะทรงตัดสินมนุษย์ทุกคนเมื่อถึงวันสิ้นโลก โดยแยกคนดีออกจากคนชั่ว

 

รัฐสภาแห่งสมาพันธรัฐสวิส (Bundeshaus)
เป็นสถานที่ประชุมของตัวแทนจากรัฐต่างๆ ทั้ง 26 รัฐ มีหน้าที่ดูแลกำกับนโยบายในเรื่องการทูต การทหาร การเงิน
และความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ในช่วงวันอังคารถึงวันเสาร์เช้า-เที่ยง จะมีตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ และพืชผัก ผลไม้
มาวางขาย


รัฐสภาแห่งสมาพันธรัฐสวิส (Bundeshaus)


หอนาฬิกา ไซท์ล็อค (Zytglogge)

เดินมาจนถึงสี่แยกที่ตัดกับถนน Marktgasse ถนนสายหลักของเมือง กระทั่งเห็นหอนาฬิกายักษ์ใหญ่ 
ไซท์ล็อค หอนาฬิกาสัญลักษณ์สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเบิร์น มีนาฬิกาโบราณตั้งอยู่ทั้ง 2 ด้าน 
ด้านตะวันตกเป็นนาฬิกาเข็มธรรมดา ส่วนด้านตะวันออกเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ 


สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1530 โดย 4 นาที ก่อนนาฬิกาจะตีบอกชั่วโมง จะมีตุ๊กตาทั้งรูปหมู สิงโต ไก่ อัศวิน
และตัวตลก ออกมาเคลื่อนไหวทำท่าเริงระบำ ประกอบเสียง 


หอนาฬิกา ไซท์ล็อค (Zytglogge)



นาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ 


 

สวนหมี Bärengraben

สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า "เบิร์นเป็นเมืองแห่งหมี"  ในอดีตมีการสร้างบ่อหมี มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 
และได้ย้ายไปหลายแห่ง จนกระทั่งครั้งล่าสุด ปี ค.ศ.1996 ได้ย้ายมาอยู่ที่แห่งนี้จนถึงปัจจุบัน


บ่อหมี



บ่อหมี


ภายในบ่อมีหมีสีน้ำตาล 4-5 ตัว อาศัยอยู่ภายในรั้วตาข่าย ริมฝั่งแม่น้ำอาเรอที่สูงชัน อาจจะต้องใช้ความสามารถ
ในการสอดส่อง มองหาหมีสักนิดค่ะ 


วิวทิวทัศน์ของกรุงเบิร์น



วิวทิวทัศน์ของกรุงเบิร์น


ออกเดินทางต่อไปยัง Harder Kulm 

ยอดเขาฮาร์เดอร์คูลม์ (Harder Kulm - Top of Interlaken)

จุดชมวิวมุมสูงที่ระดับ 1,321 เมตร (4,334 ฟุต) จากระดับน้ำทะเล ยอดเขาที่เราสามารถชมวิวเมืองอินเทอลาเก้น
ไกลไปถึงยอดเขาจุงเฟรา ด้านขวาเป็นทะเลสาบทูน ส่วนด้านซ้ายเป็นวิวทะเลสาบเบรียซ์น ได้อย่างชัดเจน


Harder Kulm


จุดเด่นคือจะมีระเบียงยาวๆ ยื่นออกไปนอกหน้าผาด้านล่าง สามารถมองเห็นวิวได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้
ละครดังอย่างเรื่องลิขิตรัก The Crown Princess ก็มาถ่ายทำที่
ยอดเขาฮาร์เดอร์คูลม์ แห่งนี้ด้วย


Harder Kulm


เดินทางสู่ เมืองอินเทอลาเก้น (Interaken) เมืองระหว่างสองทะเลสาบ คือทะเลสาบทูนและทะเลสาบเบรียซ์น
อินเทอลาเก้น เป็นเมืองเล็กๆ ในอดีตเป็นเมืองยอดนิยมของเศรษฐี เพื่อมาพักผ่อนตากอากาศ ในปัจจุบัน
บรรยากาศความหรูหราก็ยังคงอยู่ 


เส้นทางพิชิตยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau Region) เริ่มต้นการเดินทางจากสถานี Interlaken Ost สู่
เมืองกรินเดอวาล (Grindelwald) ตั้งอยู่ในหุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงาม เป็นสถานที่ที่โรแมนติกที่สุด

ขึ้นรถไฟสายจุงเฟราบาห์เนน สู่ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch)  ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก
ให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของ สวิตเซอร์แลนด์ 

จากสถานี Kleine Scheidge  ไต่ความสูงขึ้นไป จนถึงสถานี Eigergletscher มุดอุโมงค์ที่เจาะเป็นทางยาว
ขึ้นสูงไปเรื่อยๆ แวะจอดที่หน้าผาไอเกอร์และไอส์เมียร์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์อันตระการตา 

จากนั้นรถไฟจะมุดอุโมงค์ต่อไปสิ้นสุดที่สถานี Jungfraujoch ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถานีรถไฟที่ตั้งอยู่สูงที่สุุดในยุโรป 
."TOP OF EUROPE" 


ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch)

เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดบนเทือกเขาแอลป์ ในระดับที่มากกว่า 4,000 เมตร ยอดเขาจุงเฟรา
มีความสูงถึง 4,158 เมตร จากสถานีจะมีลิฟท์พาขึ้นไปด้านบน ซึ่งมีจุดน่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้ชม

Sphinx Observation Terrace หรือ หอสังเกตการณ์สฟริงซ์ ตั้งชื่อตามลักษณะของอาคารที่เหมือนกับรูปปั้น
สฟิงซ์ที่อียิปป์ที่ตั้งอยู่บนโขดหิน ชมวิวขุนเขา หิมะ ธารน้ำแข็ง แบบรอบทิศทาง 360 องศา บนความสูง 3,571 เมตร

ด้านบนจะมีลานหิมะ ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี สามารถมองเห็นยอดเขาเมินซ์และยอดเขาจุงเฟราอยู่คนละด้าน
มีหอคอยสฟิงซ์ตั้งโดดเด่น และธารน้ำแข็งอาเล็ทซ์ (Aletschletscher) ทอดตัวลงไปสู่หุบเขาเบื้องล่าง ยาวถึง 24 กม.

 Snow Fun เป็นพื้นที่สำหรับเล่นกีฬาหิมะ ไม่ว่าจะเป็นสกี สโนว์บอร์ด 

Alpine Sensation ดินแดนแห่งเทพนิยาย ศูนย์แสดงงานศิลปะและประวัติศาสตร์ของ Jungfraujoch 

เพดานโค้งที่ประดับไปด้วยไฟรูปดอกไม้สีเหลือง

Ice Palace หรือวังน้ำแข็ง

Ice Palace หรือวังน้ำแข็ง เป็นสถานที่ที่จัดแสดงประติมากรรมแกะสลักน้ำแข็ง รูปต่างๆ
ถ้ำน้ำแข็งที่เจาะลึกไปในธารน้ำแข็งกว่า 30 เมตร มีขนาดใหญ่ถึง 1,000 ตารางเมตร  จุดนี้จะต้องเดินอย่าง
ระมัดระวังนะคะ เพราะค่อนข้างลื่นนิดนึง

โบกมือลา ยอดเขาจุงเฟรา เพื่อเดินทางสู่เลาเทอร์บรุนเนน (Lauterbrunnen) หมู่บ้านในหุบเขาที่สวยงามของสวิส
โดยใช้เส้นทางการเดินทางอีกเส้นหนึ่งของยอดเขา เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงาม
 

ตลอดสองข้างทาง จะได้พบกับวิวทิวทัศน์อันตระการตา ผ่านหุบเขาอันเขียวขจี บางช่วงใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี 
ตัดกับภูเขาหิมะสีขาวโพลน พบกับหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ราวกับภาพในฝันอันแสนสวยงาม

จากจุงเฟรา มุ่งสู่ลูเซิร์น....

เมืองลูเซิร์น (Luzern) ลูเซิร์นเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของสวิตเซอร์แลนด์มาตั้งแต่อดีต
ทั้งการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม มีการคมนาคมที่สะดวก เรียกได้ว่าเป็นหัวใจแห่งสวิตเซอร์แลนด์

สถานที่ที่พลาดไม่ได้และเป็นสัญลักษณ์แห่งลูเซิร์น คือสะพานไม้ชาเปล

สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) สะพานไม้ที่เก่าแก่สุดในโลกมีอายุหลายร้อยปี พาดข้ามแม่น้ำรอยส์
มีป้อมปราการแปดเหลี่ยมตั้งอยู่กลางสะพาน เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของลูเซิร์น (Luzern)
โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมุงแบบโบราณ  เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ  หอคอยน้ำ (Water Tower) 
มีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ตลอดแนวสะพาน เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า
400 ปี ในปี ค.ศ.1993  ถูกไฟไหม้จนเสียหายอย่างมาก แต่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมจนกลับมาอยู่ในสภาพที่ดี


Chapel Bridge



เดินเล่นทอดน่อง กับบรรยากาศสบายๆ ที่เมืองลูเซิร์น เมื่อเดินข้ามมายังอีกฝั่งของสะพาน จะได้เห็นวิวทิวทัศน์
ที่สวยงามเกินคำบรรยาย ทั้งตึกรามบ้านช่อง ริมสองฝั่งของแม่น้ำ ฝูงหงษ์ขาวล่องลอยท่ามกลางแม่น้ำ
และทิวทัศน์ของภูเขาเหนือทะเลสาบลูเซิร์น จากนั้นเดินทางไปต่อที่ อนุสาวรีย์สิงโตแห่งลูเซิร์น

Löwendenkmal สิงโตแห่งลูเซิร์น เป็นประติมากรรมแกะสลักหินผา ตั้งอยู่ใจกลางลูเซิร์น 
รูปสลักสิงโตที่ถุกหอกแทง หมอบอยู่ข้างโล่ สะอื้นร่ำไห้ด้วยใบหน้าที่โศกเศร้า ก่อนเสียชีวิต ที่รัฐบาลฝรั่งเศสสร้างขึ้น
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คนระลึกถึงองครักษ์สวิสที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ คณะปฏิวัติบุกพระราชวังตุยเลอรีในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส


สวิตเซอร์แลนด์ ยังมีอีกหลายเมืองที่เงียบสงบ ธรรมชาติที่สวยงาม และมียอดเขาอีกหลายลูกที่สามารถพิชิต
อาทิ ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ยอดเขาพิบาตุส ยอดเขาทิตลิส ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย และของฝากน่าซื้อมากมาย
พลาดไม่ได้สำหรับประเทศในฝันแห่งนี้ค่ะ "สวิตเซอร์แลนด์"

 

Cr.pixabay Annca

 

ของฝากที่น่าซื้อจากสวิตเซอร์แลนด์ Swiss Made

-นาฬิกาสวิส อาทิ  Rolex, Omega, TAG Heuer, Patek Philippe, Swatch, Longines, Tissot เป็นต้น
-มีดพับสวิส Victorinox และ Wenger
-ช็อกโกแลตสวิส 
-ชีส Gruyère และ Emmentaler,
-ของที่ระลึก อาทิ แม็กเน็ตติดตู้เย็น, เข็มกลัดสัญลักษณ์ธงสวิส

 

Cr.ข้อมูลเพิ่มเติม ใครๆก็ไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์

---------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทาบีทาบิ ทราเวล จำกัด
รับจัด กรุ๊ปเหมาส่วนตัว ทั้งในและต่างประเทศ
- กรุ๊ปดูงาน ประชุม สัมมนา
- กรุ๊ปส่วนตัว ครอบครัว เพื่อนฝูง ตั้งแต่ 5 ท่าน ขึ้นไป 
- กรุ๊ปส่งเสริมการขาย

☎️ติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
โทรศัพท์ 02-871-5588 
Hotline 095-963-5588, 086-324-4691 
FB : http://www.facebook.com/tabeetabitravel/
IG : https://www.instagram.com/tabeetabi_travel/
Line@ : @tabeetabi